(ก่อนเล่าชีวิตที่เผชิญ ขอบอกก่อนว่า เป็นรถคันแรก เลยความรู้เกี่ยวกับรถน้อย ถึงน้อยมาก
ส่วนใหญ่ขับรถแฟน เป็นรถใหม่เข้าศูนย์ตลอด เลยไม่ได้ดูอะไรเองมาก แต่ เจ้า w202 ทำให้ผมต้องเริ่มศึกษา
เรียกง่ายๆ คือ ขับไป เรียนรู้มันไป อ่านเวบบอร์ดเข้าไว้ ศึกษาทุกแง่มุม)
แค่ขับจาก หาดใหญ่ ถึง กทม. ก็สนุกแล้ว ท้าวความก่อนว่า ก่อนขับขึ้นมา เพิ่งเปลี่ยน ปั๊มติ้ก มา
เติมน้ำมันเต็มถึง แล้วลุย ขับมาได้ 2 ชม. เครื่องดับ เรากับแฟนก็บอกว่า shipหายแล้ว น้ำมันลดลงมาขีดเดียว
หรือว่าปั๊มติ้ก หรือว่าบลา บลา...โทรไปถามช่าง ช่างเลยบอกมาถังน้ำมันมีปัญหา
แต่ยังไม่ได้เปลี่ยน (หลังจากอ่านตามกระทู้ นี่มันปัญหาคลาสสิคเลยนี่หว่า) โชคดีที่ยังสตาร์ทด้วยแก้สติด
เลยขับหาปั๊มด่วน สุดท่ายเลยแก้ปัญหาโดย เติมน้ำมันทุกๆ 2 ชม. ถือว่าพักไปในตัวด้วย และถึงโดยปลอดภัย
ถึงกทม. ก็คิดว่าจะไม่ขับแก้ส ขับน้ำมันเท่านั้น เพราะอยากเซฟเครื่องยนต์ให้อยู่กับเรานานที่สุด
หลังจากนั้นก็เริ่มต้นศึกษา หาข้อมูลทาง club c class นี่แหละ ขับไปซัก 2 สัปดาห์ ก็ได้เวลาเข้าอู่แล้วละสิ
สัปดาห์แรก ก็เริ่มเปลี่ยนลูกลอย 2 ลูก เปลี่ยนเสร็จ เริ่มลองของเลยครับ อยากรู้ว่าจาก ก่อนเปลี่ยน 20 ลิตรเต็มถัง
หลังเติมได้เท่าไหร่ เลยขับ ขับ ขับ (ตัวอย่างไม่ดี) จนดับ แล้วขับต่อด้วยแก้ส (โชคดีดับในเมือง ช่วงติดไฟแดง)
สรุป เติมได้ 48 ลิตร แต่เฮ้ย อ่านมามันได้ 60 กส่าลิตรนี่ เลยเข้าอู่อีกรอบ
รอบนี้ช่างบอกว่า ท่อในถึงมันกรอบแล้ว ต้องเปลี่ยนถึง แต่ยังก่อน เพราะกำลังทรัพย์ไม่พอ ช่างเลยแก้ไขท่อให้นิดหน่อย
ไปเติมน้ำมันอีกที คราวนี้ เติมได้ 50 ลิตรปลายๆ ผมพอใจ ณ จุดนี้ เลยยังไม่เปลี่ยน
ย้อนกลับไปสัปดาห์แรก ผมมีอีกปัญหาคือ ฝาครอบใต้พวงมาลัยแตกตรงที่เปิดฝากระโปรง เลยรีบหาข้อมูลไปหน่อย
ไปได้ part มือ 2 จากร้านๆนึง ซึ่งไม่ได้ดูของก่อน โทรไปซื้อแล้วให้มาส่งที่อู่ กลับมาดูของ โอ้ยยยย ปะติดปะต่อมานับเลย
แต่ก็เอาวะ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว และเป็นที่ๆมองไม่ค่อยเห็น ใช้ไปก่อนละกัน
หลังจากมาหาข้อมูลเรื่อยๆ นี้มันปัญหาคลาสสิคอีกแล้วนี่หว่า
หลังจากขับมาได้ซักเดือน ปัญหามันมาเยือนอีกละครับ รอบนี้มีสัญญาณมาก่อน คือ ขับแล้วรู้สึกว่าพวงมาลัยมันเบา
โยกไปมาได้ โดยล้อไม่ตาม แล่วถ้าเจอหลุม หรือระนาด จะมีเสียงที่ล้อหน้า ไม่รอช้า รีบเข้าอู่ทันที
รอบนี้ บอกอาการ ตรวจแปปเดียวรู้ คันชักคอพวงมาลัยใกล้จะหลุด เฮ้ยนี่ถ้ามั้นหลุดตรูแต่แน่ๆ เลยกัดฟันควักกระเป๋าเปลี่ยนครับ
ซ่อมเสร็จขับอย่างสบายใจ
1 อาทิตย์ถัดไป งานงอกอีกแล้วครับ ช่วงหลังเติมลมล้อหลังซ้ายบ่อยๆ เราก็คิดว่า ยางรั่วแน่ๆ แต่ช้าก่อน มันหนักกว่านั้น
แม็กร้าว(บ้านผมเรียก ด้องคด) มีรอยรั่วเล็กๆที่ขอบเลยทำลมซึมออกมา โชคดีที่ล้อสำรองเป็นแม็กลายเดียวกันเลยจัดการเปลี่ยนซะ
แล้วค่อยหาเงินปะ ขัด ซ่อมสี คิดว่ารอทำทีเดียว 5 ล้อเลย
ผ่านมาอีกอาทิดมันมาอีกละ รอบนี้เริ่มคิดละว่า เฮ้ยไม่ไหวละนะจ๊อด ถี่เหลือเกิน แต่ลึกๆก็ เอาน่า ซ่อมหนักเริ่มต้นเดี๋ยวต่อไป จะสบาย
รอบนี้มาแปลก แบบคนไม่มีประสบการณ์ อาการคือ เหลือน้ำมันอยู่ 1 ขีด ประมาณ 10 ลิตร เช้าก็ขับปกติ เย็นจะขับเข้าไปจอดที่บ้าน
สตาร์ทไม่ติด เอาละครับ งานเข้าไม่ขาดสาย สตาร์ทอยู่ 2-3 รอบ นาฬิกามันเริ่มเดินใหม่ เราก็แบบ แบตหมดแน่ๆ เฮ้ออ(ในใจ) ขับรถแฟนออกไปหาร้านแบต เปลี่ยนเลยครับ ปรากฏว่ายังสตาร์ทไม่ติด เฮ้ยไรแว้ อะไรมันนักหนา งานนี้ไม่รอด โทรหาช่าง ช่างมาดูอาการ
สรุปได้ว่า ผมจอดรถล้อขวาอยู่บนเนินแล้วล้อซ้ายอยู่ล่างเนินในสภาพ เอียงซ้าย แล้วน้ำมันเหลือ 1 ขีด ประกอบกับท่อในถังยังไม่ค่อยดี
น้ำมันมันเลยเทไปอยู่ถังซ้ายหมด ปั๊มติ้กเลยปั๊มน้ำมันไม่เข้าเครื่องแก้ปัญหานิดหน่อย เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่ายเลย แหม่ งอแงเก่งจริง
ผ่านมาอีก อาทิตย์ แงๆ ดวงเสียตังค์มาอีกแล้ว คิดในใจพี่จะไม่ทนแล้วนะ รอบนี้ผ้าเบรคหมด เริ่มมีอาการเตือนหมดได้ซัก 10 วัน
คราวนี้หาข้อมูลสุดใจก่อนเปลี่ยน หาของมาได้ร้านนึงเป็นผ้าเบรคแท้ของมันเอง ราคาตามที่แนะนำกัน ขับไปซื้อเองเลยครับแถว
สะพานมัฆวาน (ร้านอะไหล่ยุโรปเยอะชะมัด) แล้วจ้างเค้าเปลี่ยนเอา สบายใจ
ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนเริ่มขับอย่างสบายใจ (แน่สิ ซ่อมไปเยอะแล้วหนิ) เข้าคอนเซปขับไป เรียนรู้กันไป แก้ไปทีละอย่าง ได้เวบบอร์ด
กับตำรากูเกิ้ลช่วยไว้ ผ่านไปลำบากบ้าง ขรุขระบ้าง แต่เริ่มรู้ทางมันแล้วก็ขับอย่างไร้กังวล ก็ยังต้องมีเปลี่ยนอะไหล่อีกบ้าง แต่ไม่เกี่ยวกับการขับ
เลยคิดว่า มีตังค์เมื่อไหร่ค่อยทยอยเปลี่ยน อยากให้รถมันดูคลาสสิคไยแบบฉบับของมัน เดิมๆแหละสวยสุดละ
ขอบคุณที่อ่าน กระทู้ประสบการณ์ อันยาวเหยียดของผม ส่วนผมต้องขอบคุณพี่ๆ ที่แชร์ความรู้ แนะนำ ในบอร์ดเก่าๆ
ว่างๆจะมาแชร์รูปเรื่อยๆ นะครับ